วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

รถกระบะเสียหลักชนเสาไฟฟ้า โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย คาดคนขับวูบขณะขับขี่


วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 11.00 น. หน่วยกู้ภัยได้รับแจ้งจากประชาชนว่าเกิดอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า บริเวณหมู่ 1 ตำบลไผ่ล้อม อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์

เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถกระบะสีบรอนซ์เงินพุ่งตกข้างทาง ชนอัดกับเสาไฟฟ้าจนเสาหักเสียหาย 1 ต้น นอกจากนี้ยังพบเสาหลักลายก่อนถึงจุดชนได้รับความเสียหายด้วย คาดว่ารถอาจพุ่งชนเสาหลักลายก่อนจะพุ่งชนเสาไฟฟ้าในจุดสุดท้าย จากการตรวจสอบพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย มีบาดแผลถลอกบริเวณหน้าผาก เจ้าหน้าที่ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาล ผู้บาดเจ็บให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ขณะขับรถอยู่ได้เกิดอาการวูบ โดยไม่รู้ตัว ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่ารถได้พุ่งชนเสาไฟฟ้าแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุของอุบัติเหตุ และประสานการไฟฟ้าเพื่อเข้าดำเนินการแก้ไขความเสียหายต่อไป







รายงาน ภากร แหลมหลัก

ชาวบ้าน จ.บุรีรัมย์ เยี่ยมชมโรงงานน้ำตาลพิมายและชื่นชมโรงงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 


เมื่อวันที่ 3-5 กรกฎาคม 2568  บริษัท อุตสาหกรรมโคราชจำกัด (โรงงานน้ำตาลพิมาย) โดยคุณประเสริฐ  เสถียรถิระกุล ประธานกรรมการ และคุณมงคล   เสถียรถิระกุล  กรรมการผู้จัดการ มอบหมายให้ นายสมบูรณ์ จาตุรชาต ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมและพัฒนาอ้อย พร้อมด้วยผู้บริหารและพนักงานโรงงานน้ำตาลพิมาย  ให้การต้อนรับคณะผู้เยี่ยมชมโรงงานน้ำตาลพิมาย ชาวหมู่บ้านหนองปล่อง ,หนองหัวลาว,หนองตาเสาร์,โคกขาม,สำโรง,ดอนหวาย,หนองใหญ่,ตาเหล็ง อีกหลายหมู่บ้าน จาก อ.ชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์  ซึ่งได้เดินทางมาเยี่ยมชมการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม  และด้านการพัฒนาสังคมของโรงงานน้ำตาลพิมาย  

ในการเยี่ยมชมครั้งนี้ คณะผู้เยี่ยมชมโรงงานน้ำตาลพิมาย ได้รับฟังการบรรยายเกี่ยวกับการบำบัดน้ำเสีย การควบคุมคุณภาพอากาศ การจัดการของเสีย และการนำทรัพยากรเหลือใช้กลับมาใช้ประโยชน์ (Zero Waste) โดยเฉพาะการใช้กากอ้อยและเศษวัสดุทางการเกษตรเป็นพลังงานทดแทน  นอกจากนี้ยังได้เยี่ยมชมพื้นที่จริง เช่น การจัดการมลพิษทางอากาศที่ระบายออกจากปล่องหม้อไอน้ำ  พื้นที่จัดเก็บกองกากอ้อย  การจัดการผันน้ำของโรงงาน  และชมการพัฒนาชุมชนรอบโรงงานน้ำตาลพิมาย  คณะผู้เยี่ยมชมโรงงานน้ำตาลพิมาย  ได้แสดงความชื่นชมต่อความมุ่งมั่นของโรงงานน้ำตาลพิมาย ในการดำเนินงานตามหลักเกณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  อันจะส่งผลดีต่อชุมชนและระบบนิเวศโดยรอบในระยะยาว

หลังจากได้รับทราบข้อมูลและลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมในจุดต่าง ๆ  คณะผู้เยี่ยมชมโรงงานฯ ได้แสดงความเชื่อมั่นว่าโรงงานมีการดำเนินงานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้  และให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ทั้งยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล

การได้รับความไว้วางใจจากผู้เยี่ยมชมครั้งนี้ ถือเป็นแรงผลักดันสำคัญให้โรงงานน้ำตาลพิมาย  มุ่งมั่นพัฒนาระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้น สอดคล้องกับแนวทางของการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน และสร้างความเชื่อมั่นต่อชุมชนและสังคมโดยรอบอย่างมั่นคง










กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

แจ้งเพื่อทราบ สำนักงานหนังสือพิมพ์ ข้าแผ่นดินสยาม รายสัปดาห์ เรื่อง ให้นาย ทินโอ หรือ MR.THEIW OO พ้นหน้าที่สื่อมวลชนของสำนักงานหนังสือพิมพ์ ข้าแผ่นดินสยาม


แจ้งเพื่อทราบ สำนักงานหนังสือพิมพ์ ข้าแผ่นดินสยาม รายสัปดาห์ เรื่อง ให้นาย ทินโอ หรือ MR.THEIW OO พ้นหน้าที่สื่อมวลชนของสำนักงานหนังสือพิมพ์ ข้าแผ่นดินสยาม 

เนื่องจากนาย ทินโอ หรือ MR.THEIW OO ได้กระทำความผิดทางกฏหมาย โดยจงใจ ไม่มีความเคารพยำเกรงใดๆ ต่อกฏหมายแห่งราชอาณาจักรไทย โดยกระทำความผิดให้ความช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือกระทำด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยฝ่าฝืนกฏหมาย หรือให้พ้นจากการจับกุม พร้องแรงง่นต่างด้าว ฯลฯ โดยมิคำนึงถึงศักดิ์ศรีของความเป็นสื่อมวลชน ในฐานะสื่อข่าวและช่างภาพข่าว ขาดจริยธรรมและปณิธานของหนังสือพิมพ์ ข้าแผ่นดินสยาม รายสัปดาห์ ที่ตราใว้ จึงมีคำสั่งให้ปลดนาย ทินโอ หรือ MR.THEIW OO ออกจากหนังสือพิมพ์ ข้าแผ่นดินสยาม รายสัปดาห์ และให้ฝ่ายกฏหมายดำเนินคดี ต่อไป



มงคลชัย ใจธรรมมะ  รายงานข่าว 

วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

ตำรวจภูธร จังหวัดพิจิตร แถลงข่าวจับยาบ้า 400,000 เม็ด พร้อมอุปกรณ์ของกลางปืน รถยนต์ 4 คัน


 เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2568 เวลา 11.00 น.พ.ต.อ.อนุกูล ดาวลอย รอง ผบก.ภ.จว.พิจิตร พร้อมด้วย นาย กิติพล เวชกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดในพื้นที่ จังหวัดพิจิตร ได้ 400,000 เม็ดสืบเนื่องมาจากวันที่ 6 มิ.ย.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนของจังหวัดพิจิตร ได้รับแจ้งจากสายลับ โดยใช้ชื่อในโปรแกรม line ว่า .ไอ้แดง.ได้แจ้งว่ามียาเสพติดถูกซุกซ่อนในพื้นที่ อ. วังทรายพูน พร้อมทั้งได้ส่งพิกัดแจ้งตำแหน่ง ที่บริเวณริมคลองทุ่งนาท้ายหมู่บ้าน ม.2 ต.หนองพระ อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบถังพลาสติกที่ใช้บรรจุยาเสพติด ภายในบรรจุยาเสพติด (ยาบ้า )อยู่ในห่อพลาสติก จำนวน 40 มัด มัดละประมาณ 10,000 เม็ด รวมทั้งหมด 400,000 เม็ด ชุดสืบสวน กก.สืบสวน ภ.จว.พิจิตร จึงได้แจ้งให้ผู้กำกับการสถานีตำภูธรธรวังทรายพูนรับทราบ จึงได้สั่งให้เจ้าหน้าที่สืบสวนวังทรายพูน และร้อยเวร เข้าพื้นที่ร่วมกันตรวจสอบ สถานที่เกิดเหตุ และได้แจ้ง พฐ.จว.พิจิตร เพื่อเก็บพยานหลักฐาน และทาง กก.สืบสวน ภ.จว.พิจิตร ได้ทำการสืบสวนในทางลับ จนถึงเป้าหมายและผู้เกี่ยวข้อง ในการฝังยาบ้า จำนวน 400,000 เม็ด จำนวน 4 คน ได้แก่ นายอู๋ และภรรยา นายครีมและภรรยา ทางเจ้าหน้าจึงได้ทำการตรวจค้นบ้าน ของ นายอู๋ และภรรยา พบยาบ้า 18 เม็ด และตรวจค้นบ้านของ นาย ครีมและภรรยา พบยาบ้าอีกจำนวน 7,985 เม็ด ซึ่งทางผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ได้ให้การรับสารภาพว่ายาบ้าทั้ง 400,000 เม็ด เป็นของพวกตัวเอง ทั้งนี้ตำรวจภูธร จังหวัดพิจิตรยังไม่ปักใจเชื่อและจะดำเนินการสืบสวน สอบสวนต่อไป และจะดำเนินการกวดขันอย่างเคร่งครัดและให้เป็นไปตามกระบวนยุติของกฎหมาย











ภาพข่าว วีดีโอ ธีรพงศ์ นาคแนม (นกพิราบศูนย์ข่าว จังหวัดพิจิตร)  โทร 0831671688 รายงาน** คนรู้จักพัก ทว่าไม่รู้จักพอ ** จิตอาสาพัฒนา เราทำความดีด้วยหัวใจ....ร่วมใจกันพัฒนา





 

วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

ป้า 62 ร้องผู้ว่าโคราชเชือดกำนันแหนบทองคำ หลอกสวมชื่อที่ดิน สปก. สูญเงิน 2.2 แสน จ่อลงโทษทางวินัย

 


ป้า 62 ร้องผู้ว่าโคราชเชือดกำนันแหนบทองคำ หลอกสวมชื่อที่ดิน สปก. สูญเงิน 2.2 แสน จ่อลงโทษทางวินัย 

วันที่ 2 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางลมหวน คลื่นสูงเนิน อายุ 62 ปี ชาวบ้าน ต.บ้านใหม่ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา พร้อมครอบครัว หอบเอกสารยื่นขอความเป็นธรรมกับ นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุมภ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กรณีถูกกำนันรางวัลแหนบทองคำนายหนึ่ง ร่วมขบวนการกับผู้หญิงที่อ้างตัวว่าเป็นอาจารย์ระดับด๊อกเตอร์ และเจ๊ใหญ่ หลอกลวงเงินรวม 220000 บาท อ้างว่าสามารถทำเรื่องเปลี่ยนชื่อในเอกสารสิทธิ์ สปก. (ใบจริง) เพื่อเป็นเจ้าของที่ดิน สปก. โดยสมบูรณ์ จากนั้นจะสามารถนำใบจริง สปก. ที่เป็นชื่อของป้าลมหวน ไปดำเนินการทำเรื่องลงทะเบียนเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดินตามนโยบายรัฐบาลได้ แต่สุดท้ายไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ต้องสูญเสียเงินเปล่า จึงมีการแจ้งความดำเนินคดีกับกำนัน และผู้ร่วมขบวนการ รวม 3 คน ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง โดยมีปลัดอาวุโส ปฏิบัติหน้าที่หน้าห้อง รับเรื่องเพื่อเสนอให้ผู้ว่าฯทราบ เหตุการณ์เริ่มต้นตั้งแต่ นางลมหวน ใช้เงินเก็บหอมรอมริบมาตลอดชีวิต ซื้อที่ดิน 13 ไร่ ต่อจากเจ้าของเดิม ในราคาไร่ละ 90000 บาท รวมเป็นเงิน 1170000 บาท แต่เป็นที่ดินเอกสารสิทธิ์ สปก. ต่อมามีกำนันแหนบทองคำรายหนึ่งมาติดต่ออ้างว่า สามารถทำเรื่องเปลี่ยนชื่อในเอกสารสิทธิ์ สปก. จากชื่อของเจ้าของเดิม เป็นชื่อของนางลมหวนได้ โดยมีผู้ร่วมขบวนการ ทั้งอาจารย์ด๊อกเตอร์และเจ๊ใหญ่ อ้างตัวว่า รู้จักสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่ สปก.โคราช ช่วยทำเรื่องให้ แต่มีค่าดำเนินการทำเอกสารใหม่ทั้งหมดเป็นเงิน 120000 บาท จึงตกลงทำพร้อมกับจ่ายเงินก้อนแรก เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2566 ต่อมาวันที่ 5 ตุลาคม 2566 มีผู้หญิงอ้างว่าเป็นอาจารย์ระดับด๊อกเตอร์ ถือเอกสารใบ สปก.ตัวจริง (ใบแข็ง) ที่ยังเป็นชื่อของเจ้าของเดิม (ยังเปลี่ยนชื่อไม่ได้) มาหานางลมหวน อ้างว่า มีคนนำใบ สปก.ฉบับนี้ เอาไปกู้เงิน 100000 บาท ถ้าอยากได้ใบ สปก.(ใบแข็ง)คืน ก็ให้จ่ายเงินมา 100000 บาท นางลมหวนกลัวว่าจะไม่ได้ใบ สปก.คืน จึงยอมจ่ายเงินให้ เพราะกลัวจะไม่ได้อะไรเลย เพราะลงทุนซื้อที่ดินในราคา 1170000 บาท และจ่ายเงินไปครบแล้ว สุดท้ายมารู้ว่า กำนันแหนบทองคำ อาจารย์ด๊อกเตอร์ และเจ๊ใหญ่ ผู้ร่วมขบวนการรวม 3 คน มาหลอกเอาเงินรวมทั้งสิ้น 220000 บาท ซ้ำยังไม่สามารถทำเรื่องเปลี่ยนชื่อในใบ สปก.ได้ จึงนำหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีกับทั้ง 3 คน ที่ สภ.หนองบุญมาก เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2566 ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปี ตำรวจสอบปากคำผู้ถูกกล่าวหาและพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง จนสรุปสำนวนคดีส่งอัยการพิจารณาสั่งฟ้องศาล ขณะที่ทางอำเภอหนองบุญมาก หน่วยงานปกครอง มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเพื่อเอาผิดกำนันแหนบทองคำรายนี้ เพราะเป็นตัวการสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้าน และน่าเชื่อว่าทำกันเป็นขบวนการ มีชาวบ้านหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อมาแล้วหลายราย ก่อนหน้านี้ นายพงษ์เทพ จันทร์นอก นายอำเภอหนองบุญมาก ชี้แจงว่า ผลการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้พบว่า มีมูลความผิด กำนันรายนี้มีพฤติการณ์ที่เข้าข่ายหลอกลวงชาวบ้านจริง อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล ก่อนเสนอเรื่องถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อพิจารณาบทลงโทษตามขั้นตอนแล้ว  ด้าน กำนันรางวัลแหนบทองคำ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว แต่ได้แจ้งทางโทรศัพท์ว่า ขอรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมจะคืนเงินทั้งหมดแก่ นางลมหวน ผู้เสียหาย แต่อยู่ระหว่างการหารวบรวมเงินก่อน.







กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

รถกระบะเสียหลักชนเสาไฟฟ้า โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย คาดคนขับวูบขณะขับขี่

วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 11.00 น. หน่วยกู้ภัยได้รับแจ้งจากประชาชนว่าเกิดอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า บริเวณหมู่ 1 ตำ...