ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก


ทั่วโลกตะลึงประเทศไทยกลายเป็นแหล่งหลอกขายสินค้า

ทั่วโลกตะลึงประเทศไทยกลายเป็นแหล่งส่องสุมหลอกลวงขายสินค้าออนไลน์ ที่ไม่ได้มาตรฐาน ของกลุ่มทุนธุรกิจสีเทาไปแล้ว ปัจจุบันได้มีชาวต่างชาติมากมายหลายเชื้อชาติ ที่มุ่งหน้าเดินทางมาประเทศไทยเพื่อทำธุรกิจแบบเทาๆ โดยเฉพราะกลุ่มทุนชาวจีน ที่ใช้ที่ประเทศไทยเป็นฐานในเพื่อทำธุรกิจค้าขายแบบไลฟ์ในการโฆษณาขายสินค้าประเภทต่างๆ ที่เราได้พบเห็นอย่างมากมายในแพลตฟอร์มต่างๆ ในระดับต้นๆ เมื่อเราเข้าสู่โลกโซเชียลเน็ตเวิร์ค Application ต่างๆ เช่นtiktok , Line, Google ,Youtubeเช่นการโฆษณาผลิตภัณฑ์จาก ยางพาราไม่ว่าจะเป็น หมอน ที่นอน เบาะนั่งโซฟา และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย

โดยกลุ่มคนเหล่านี้แอบอ้างการตีตราประทับการผลิตสินค้าประเภทต่างๆ ในประเทศไทย หรือ เมดอินไทยแลนด์ ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นการแอบอ้างโฆษณาเพื่อหลอกลวงให้คนที่เห็นโฆษณาหลงเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาแอบอ้างดังกล่าวมีมาตรฐานตามที่แอบอ้าง เหตุที่กลุ่มทำธุรกิจเทาๆ เหล่านี้ต่างมุ่งมาที่ประเทศไทยเพื่อใช้เป็นฐานทำการหลอกลวงเพราะประเทศไทยผลิตสินค้าได้มาตรฐานมายาวนาน จึงมีความน่าเชื่อถือ การใช้ประเทศไทยเป็นแบล็คกราวด์คนที่เห็นในโฆษณาเกิดความมั่นใจในสินค้าทำให้มีประชาชนเป็นจำนวนมากที่ได้ดูการไลฟ์สดหรือโฆษณาในรูปแบบต่างๆ เกิดความเชื่อถือตามที่โฆษณาแอบอ้างและหลงเชื่อจึงได้สั่งซื้อสินค้าตามที่โฆษณา แต่เมื่อได้รับสินค้าแล้วกลับไม่ตรงปกตามที่เห็นในโฆษณาชวนเชื่อ

พฤติกรรมดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นอย่างมาก และทำให้ผู้ผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐานทุกประเภทเช่นการแปรรูปยางพาราในรูปแบบต่างๆ หรือสินค้าด้านสุขภาพ เช่นยาหม่อง สบู่ กาแฟ พืชสมุนไพร ผักผลไม้ต่างๆได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ทำให้สินค้าจากประเทศไทยเริ่มถูกมองว่าเป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและเสียดุลการค้าระบบการจัดเก็บภาษีอากรไม่เป็นไปตามกฏหมาย

รัฐบาลควรที่จะดำเนินกำชับหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งมีหน้าที่ในการตรวจสอบ การป้องปรามและปราปปราม เช่นกรมการค้าภายใน กรมศุลกากร เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานต่างๆ ที่กี่ยวข้อง ให้เร่งดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจัง ไม่ไช่นิ่งเฉยไปวันๆหากเจ้าหน้าที่ของภาครัฐ ได้ทำการตรวจสอบและสอดส่องพฤติกรรมการทำธุรกิจเทาๆ เหล่านี้อย่างเข้มข้นและจริงจังปัญหาต่างๆ เหล่านี้อาจไม่เกิดขึ้น การที่ภาครัฐและส่วนงานต่างๆ หลับตาต่างหนึ่งทำให้มองไม่เห็น ไม่มีการตรวจสอบข้อมูลของผู้ประกอบการในการยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทว่าถูกต้องหรือไม่ ขั้นตอนการขออนุญาตและการให้ใบอนุญาตประกอบกิจการ นำเข้า-ส่งออก เป็นไปตามระเบียบกฏหมายอย่างถูกต้องหรือไม่ การกระทำของกลุ่มคนต่างชาติหรือกลุ่มทุนธุรกิจจีน สีเทาเหล่านี้สร้างผลกระทบทำให้ประเทศไทย ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่นต่อสินค้าของไทย เป็นอย่างมากร่วมทั้งทำให้กลุ่มคนต่างชาติหรือคนจีน ที่เข้ามาทำธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฏหมายในประเทสไทย ต่างได้รับผลกระทบอย่างเลียงเลี่ยงไม่ได้







ที่ข่าว อาชญากรรม  ต้อม สิงห์๑ รายงาน ข่าว


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คนไทยไม่ทิ้งกัน ส่งพลังและสิ่งของมอบให้ทหาร กองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๒๕

พระอาจารย์ สมชาย(เอก) วัดบัวแก้วศัทธาธรรม กรุงเทพ ฯ พร้อมด้วย บรรดาญาติ ผู้มีจิตศรัทธา มีนายภูวเดช ดวงประเสริฐ และ น.ส.เอมมณา วงศ์รัตติกูล ได้นำสิ่งของไปมอบให้กองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๒๕ เพื่อนำสิ่งของไปมอบให้ ทหารที่อยู่ชายแดนที่จังหวัด  ศรีษะเกตุ และจังหวัดสุรินทร์ ค่ายวีรวัฒน์โยธิน มงคลชัย ใจธรรมมะ  รายงานข่าว   

แก๊งมิจฉาชีพอาละวาด! ออกเดินเรี่ยไรเงินในจ.สุโขทัย

แก๊งมิจฉาชีพอาละวาด! ออกเดินเรี่ยไรเงินในจ.สุโขทัย  เจ้าหน้าที่ปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่ามีการทำการเรียไรในพื้นที่อำเภอสวรรคโลก และได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่อำเภอศรีสำโรงโดยรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมก หมายเลขทะเบียน บพ 2801 กาญจนบุรี แบบบรรทุกตอนเดียวมีหลังคา สีบรอนเงิน โดยได้ทำการเรี่ยไรในพื้นที่ตลาดศิริสุข และได้เดินทางไปเรี่ยไรต่อในพื้นที่ม.2 ต.คลองตาล ต่อมาวันที่ 22มี.ค.68 เวลา 11.55น. นายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ ปลัดจังหวัดสุโขทัย ป้องกันจังหวัดสุโขทัย ปลัดอำเภอศรีสำโรง พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ลงพื้นที่ตรวจสอบตามการร้องเรียนของประชาชนจนได้พบตัวนายสายชล ทับทิม อายุ 37ปี ชาวจ.สุพรรณบุรี และนายวัลลพ ทัศนากร อายุ 46ปี ชาวจ.ราชบุรี จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจค้น พบเงินสดจำนวน 2,179 บาท ซองบอกบุญสำนักสงฆ์พุทธนิมิตรบึงอ้อ บ้านปีกคง ม.6 ต.หนองนาแซง อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิและตราประทับสำนักสงฆ์ฯ พร้อมตลับหมึกจำนวน 1 ชุด  จึงได้ขอตรวจสอบใบอนุญาตเรี่ยไร ซึ่งต่อมามีนายคำเบ้า แต้มชัยภูมิ อายุ70ปี ชาวจ.กาญจนบุรีได้เข้ามาแสดงตนเป็นหั...

ร่วมด้วยช่วยกัน งานผ้าป่าเพื่อพัฒนาการศึกษาโรงเรียนบ้านหนองอีเหลอ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต ๔

วันที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๘ เวลา ๑๐.๐๐ น.งานผ้าป่าเพื่อพัฒนาการศึกษาโรงเรียนบ้านหนองอีเหลอ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต ๔ วันเสาร์ที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๘ เวลา ๑๐.๐๐ น.  "พระครู ดร.ภัทร จิตตามภรณ์"  เจ้าคณะตำบลคลองม่วง เขต ๒ และเจ้าอาวาสวัดซับม่วง  "พระครูพิพิธธรรมธราดา"  เจ้าอาวาสวัดทองอ่อนสามัคคี (ประธานฝ่ายสงฆ์)  "ว่าที่ร้อยตรี อมร โฉมงาม"  รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูง ภาค ๓ (ประธานฝ่ายฆราวาส)  นายเบิ้ม พลแก้ว  ประธานกรรมการสถานศึกษา/ คณะกรรมการสถานศึกษา/ ท่านผู้บริหาร/ ผู้นำชุมชน/ เจ่าภาพโรงทาน/ ผู้ปกครองนักเรียน/ตลอดจนผู้มีเกียรติทุกท่าน เมื่อได้เวลาอันเป็นมงคล  ว่าที่ร้อยตรี อมร โฉมงาน  รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูง ภาค ๓ ได้ให้เกียรติจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พร้อมนาย ประดิษฐ์ วงศ์ษา คณะกรรมการสถานศึกษา และรองประธานฝ่ายฆราวาส  นายแพทย์ทะเนตร แสนพงษ์  ปศุสัตว์อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และรองประธานฝ่ายฆราวาสตัวแทน  ท่าน สส สิรสิทธิ์ เลิดด้วยลาภ และ คุณภัทร เลิดด้วยลาภ สอบจ.นครราชสีมา  เ...