ฝุ่น PM 2.5 ปกคลุม "เชียงใหม่" หนาแน่น ศูนย์อำนวยการจิตอาสาภัยพิบัติ ภาค 3 พบจุดความร้อนกระจายทั่ว ชาวบ้านต้องสวมแว่นตา และหน้ากากป้องกันอันตราย ทุกหน่วยงานบูรณาการเร่งแก้ไขปัญหาเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 ศูนย์อำนวยการจิตอาสาภัยพิบัติ ภาค 3 ติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเกิดจากไฟป่าในจังหวัดเชียงใหม่ และใกล้เคียงที่เกิดขึ้น ซึ่งเช้าวันนี้พบว่าฝุ่นละออง PM 2.5 ได้ปกคลุมทั่วจังหวัด จนแสงพระอาทิตย์ที่ขึ้นยามเช้าไม่สามารถผ่านทะลุมาได้ ขณะเดียวกันยังมีบางโรงเรียนที่ไม่ปิดการเรียนการสอน ผู้ปกครองต้องหาอุปกรณ์ป้องกัน ทั้งสวมแว่นตา หน้ากากอนามัย ให้บุตรหลาน เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยจากโรคทางเดินหายใจ โดย เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568 ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้า กองทัพภาคที่ 3 ร่วมกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สนับสนุน เฮลิคอปเตอร์ ฮ.ทส.5120 และ ฮ.ทส.1110 จังหวัดลำพูน ในพื้นที่จุดเกิดไฟป่าในพื้นที่ป่าสงวนฯและป่าอนุรักษ์ ฮ.ทส.5120 ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดลำพูน บริเวณเขตรัษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง ต.ทาสบเส้า อ.แม่ทา จ.ลำพูน ไฟป่าจำนวน 14 จุด ลุกลามต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ (16 มีนาคม 2568) ขณะนี้มีกำลังภาคพื้นจาก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง 50 นาย , ชุดปฏิบัติการดับไฟป่าอำเภอแม่ทา จำนวน 20 นาย เข้าดับในพื้นที่ปฏิบัติการ และเมื่อเวลา 09.30 น. เฮลิคอปเตอร์ได้ทำการบินเดินทางไปจอดยังจุดจอดชั่วคราวบ้านแม่สะป๊วด ม.2 ต.ทาสบเส้า อ.แม่ทา เพื่อวางแผนปฏิบัติการบินและแนวทางการปฏิบัติงานดับไฟป่าร่วมกับหน่วยงานดับไฟในพื้นที่ ต่อมาเมื่อ 10.00 น. ปฏิบัติการบินประเมินสถานการณ์ไฟป่า/สำรวจปริมาณเชื้อเพลิงบริเวณจุดไฟป่าซ้ำซาก/ตรวจพื้นที่แนวกันไฟ แหล่งน้ำและจุดจอดเฮลิคอปเตอร์สำหรับดับไฟป่าในพื้นที่ฯ และ หลังการบินหากประเมินแล้วมีความจำเป็นดับไฟป่าให้ ปฏิบัติการบินสนับสนุนการดับไฟป่าร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ด้วยการ บินทิ้งน้ำดับไฟป่าและการบินขนส่งกำลังพลดับไฟป่า ต่อไป และ เฮลิคอปเตอร์กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฮ.ทส. 1110 ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ บริเวณเขตห้ามล่าสัตว์ป่าป่าบ้านโฮ่ง จ.เชียงใหม่ พบไฟป่า จำนวน 10 จุด (ป่าขุนห้วยไคร้และป่าขุนห้วยแม่เบิน ท้องที่ บ้านแม่ยุย ต.บ้านตาล อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าป่าบ้านโฮ่ง ใกล้รอยต่อสันปันแดนระหว่าง จ.เชียงใหม่และ จ.ลำพูน จากคณะเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าจากหลายหน่วยงาน ซึ่งอยู่พักค้างคืนปฏิบัติงานในพื้นที่ป่ามาตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2568 ซึ่งเฮลิคอปเตอร์ บินเดินทางไปจอดยังจุดจอดชั่วคราว เพื่อวางแผนปฏิบัติการบินและแนวทางการปฏิบัติงานดับไฟป่าร่วมกับหน่วยงานดับไฟในพื้นที่ฯ และปฏิบัติการบินประเมินสถานการณ์ไฟป่า/สำรวจปริมาณเชื้อเพลิงบริเวณจุดไฟป่าซ้ำซาก/ตรวจพื้นที่แนวกันไฟ แหล่งน้ำและจุดจอดเฮลิคอปเตอร์สำหรับดับไฟป่าในพื้นที่ฯ หลังการบินหากประเมินแล้วมีความจำเป็นดับไฟป่าให้ ปฏิบัติการบินสนับสนุนการดับไฟป่าร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ด้วยการ บินทิ้งน้ำดับไฟป่าและการบินขนส่งกำลังพลดับไฟป่า ต่อไป จากนั้น เวลา 10.15 น. ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้า กองทัพภาคที่ 3 ร่วมกับ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร โดยหน่วยดัดแปรสภาพอากาศเพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดแพร่ และ จังหวัดพิษณุโลก สนับสนุนอากาศยาน ปฏิบัติภารกิจบรรเทาหมอกควันและสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ให้กับ ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้า ในพื้นที่ประสบปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) บริเวณ พื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง (จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย จ.ลำปาง จ.พะเยา จ.อุตรดิตถ์ จ.แพร่) และพื้นที่ใกล้เคียง ชนิด CN จำนวน 1 ลำ และ CASA จำนวน 5 ลำ และ Caravan 3 ลำ (รวม 15 เที่ยวบิน) โดยมีการ ปฏิบัติการบินที่ 1 โดยเครื่องบิน CASA จำนวน 1 ลำ รวม 1 เที่ยวบิน โดยใช้น้ำปรับลดอุณหภูมิ จำนวน 1,000 ลิตร ความสูง 6,300 ฟุต บริเวณ อ.เมืองปาน จ.ลำปาง
▶️ ปฏิบัติการบินที่ 2 โดยเครื่องบิน CASA จำนวน 1 ลำ รวม 1 เที่ยวบิน โดยสารฝนหลวงสูตร 1(4/2) จำนวน 1,000 กก. ความสูง 7,500 ฟุต บริเวณ อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา
▶️ ปฏิบัติการบินที่ 3 โดยเครื่องบิน CASA จำนวน 1 ลำ รวม 1 เที่ยวบิน โดยใช้น้ำปรับลดอุณหภูมิ จำนวน 1,000 ลิตร ความสูง 6,500 ฟุต บริเวณ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่
▶️ ปฏิบัติการบินที่ 4 โดยเครื่องบิน CASA จำนวน 1 ลำ รวม 1 เที่ยวบิน โดยใช้น้ำปรับลดอุณหภูมิ จำนวน 1,000 ลิตร ความสูง 6,500 ฟุต บริเวณ อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่
▶️ ปฏิบัติการบินที่ 5 โดยเครื่องบิน CARAVAN จำนวน 2 ลำ รวม 2 เที่ยวบิน โดยสารฝนหลวง สูตร AR23 จำนวน 1,400 กก. ความสูง 8,500 ฟุต บริเวณ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย - อ.เมืองปาน จ.ลำปาง
▶️ ปฏิบัติการบินที่ 6 โดยเครื่องบิน CARAVAN จำนวน 1 ลำ รวม 1 เที่ยวบิน โดยใช้สารฝนหลวง สูตร 3 จำนวน 700 กก. ความสูง 6,500 ฟุต บริเวณ อ.หางดง จ.เชียงใหม่
▶️ ปฏิบัติการบินที่ 7 โดยเครื่องบิน CASA จำนวน 1 ลำ รวม 1 เที่ยวบิน โดยใช้น้ำปรับลดอุณหภูมิ จำนวน 1,000 ลิตร ความสูง 6,500 ฟุต บริเวณ อ.เสริมงาม จ.ลำปาง
▶️ ปฏิบัติการบินที่ 8 โดยเครื่องบิน CASA จำนวน 1 ลำ รวม 1 เที่ยวบิน โดยสารฝนหลวงสูตร 1(4/2) จำนวน 1,000 กก. ความสูง 7,500 ฟุต บริเวณ อ.เมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ - อ.เด่นชัย จ.แพร่
▶️ ปฏิบัติการบินที่ 9 โดยเครื่องบิน CASA จำนวน 1 ลำ รวม 1 เที่ยวบิน โดยใช้สารฝนหลวงสูตร 3 จำนวน 1,000 กก. ความสูง 6,500 ฟุต บริเวณ อ.เมืองปาน จ.ลำปาง
▶️ ปฏิบัติการบินที่ 10 โดยเครื่องบิน CASA จำนวน 1 ลำ รวม 1 เที่ยวบิน โดยใช้น้ำปรับลดอุณหภูมิ จำนวน 1,000 ลิตร ความสูง 6,500 ฟุต บริเวณ อ.เสริมงาม จ.ลำปาง
▶️ ปฏิบัติการบินที่ 11 โดยเครื่องบิน CARAVAN จำนวน 2 ลำ รวม 2 เที่ยวบิน โดยใช้สารฝนหลวงสูตร 3 จำนวน 1,400 กก. ความสูง 6,500 ฟุต บริเวณ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่
▶️ ปฏิบัติการบินที่ 12 โดยเครื่องบิน CN จำนวน 1 ลำ รวม 1 เที่ยวบิน โดยใช้น้ำปรับลดอุณหภูมิ จำนวน 2,000 ลิตร ความสูง 6,500 ฟุต บริเวณ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่
▶️ ปฏิบัติการบินที่ 13 โดยเครื่องบิน CASA จำนวน 1 ลำ รวม 1 เที่ยวบิน โดยใช้น้ำปรับลดอุณหภูมิ จำนวน 1,000 ลิตร ความสูง 8,000 ฟุต บริเวณ อ.แม่พริก จ.ลำปาง
▶️ ปฏิบัติการบินที่ 14 โดยเครื่องบิน CASA จำนวน 1 ลำ รวม 1 เที่ยวบิน โดยใช้น้ำปรับลดอุณหภูมิ จำนวน 1,000 ลิตร ความสูง 8,000 ฟุต บริเวณ อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย
และ ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้า กองทัพภาคที่ 3 ร่วมกับ กองทัพอากาศ สนับสนุนอากาศยาน ปฏิบัติภารกิจขึ้นบินลาดตระเวนค้นหา บรรเทาหมอกควันและสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ส่วนสนับสนุนการปฏิบัติการบินควบคุมไฟป่า กองทัพอากาศ (ส่วนหน้า) สนับสนุน ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้า ในการเเก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน ฯ โดย กองทัพอากาศ จัดเครื่องบินโจมตีธุรการแบบที่ 2 (บ.จธ.2) หรือ AU-23A พร้อมติดตั้งกล้องตรวจจับความร้อน FLIR STAR SAFIRE 380HD(HD-EO IR) ที่มีขีดความสามารถสูงในการตรวจจับความร้อน และกลุ่มควันไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อทำการบินลาดตระเวนถ่ายทอดสัญญาณ Video Downlink (VDL) แบบ REAL TIME เพื่อค้นหากลุ่มจุดความร้อนใน 17 จังหวัดของภาคเหนือ โดยตั้งฐานปฏิบัติการบินที่กองบิน 41 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำการบินลาดตระเวนค้นหาบริเวณพื้นที่ : อ.แม่ทา, อ.เมือง จว.ลำพูน และ อ.สันทราย, อ.ฮอด จว.เชียงใหม่ ซึ่งจากปฏิบัติการ สามารถถ่ายทอดสัญญาณ VDL ได้ 100 % พบจุดความร้อนในพื้นที่เป้าหมายจำนวน 3 จุด ได้แก่
1. พื้นที่ ต.ศรีบัวบาน อ.เมือง จว.ลำพูน,
2. พื้นที่ ต.ทาสบเส้า อ.แม่ทา จว.ลำพูน
และ 3. พื้นที่ ต.นาคอเรือ อ.ฮอด จว.เชียงใหม่ โดยทั้ง 3 จุดมีความรุนแรงมาก ด้าน ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับรายงานจุดความร้อน (Hotspot) จาก GISTDA ข้อมูลจาก suomi-NPP เวลา 01.24 น. จำนวน 28 จุด จำนวน 7 อำเภอ พบมากที่สุดอำเภอฮอด 11 จุด, อำเภออมก๋อย 5 จุด, อำเภอเชียงดาว 4 จุด, อำเภอแม่วาง 3 จุด, อำเภอไชยปราการ 2 จุด, อำเภอแม่แตง 2 จุด และอำเภอจอมทอง 1 จุด
จากการตรวจสอบปริมาณค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ผ่านทางแอปพลิเคชัน "เช็คฝุ่น" ระบบติดตาม PM 2.5 เมื่อเวลา 08.00 น. พบว่าทั้ง 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เป็นสีแดงจำนวน 2 อำเภอ สีส้มจำนวน 23 อำเภอ มีค่าตั้งแต่ 59.9 - 77.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ข้อมูลรายอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ 5 อันดับสูงสุด พบมากที่สุดที่อำเภอฮอด วัดได้ 77.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อันดับ 2 อำเภอเวียงแหง วัดได้ 76.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อันดับ 3 อำเภอเชียงดาว วัดได้ 73.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อันดับ 4 อำเภอจอมทอง วัดได้ 73.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และอันดับ 5 อำเภอไชยปราการ วัดได้ 71.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ภาพข่าว- วีดีโอ -ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 3 ธีรพงศ์ นาคแนม (นกพิราบศูนย์ข่าว จังหวัดพิจิตร) ศูนย์ประสานงานข่าว น.ส.พ.ข้าแผ่นดินสยาม โทร 0831671688 รายงาน** คนรู้จักพัก ทว่าไม่รู้จักพอ ** จิตอาสาพัฒนา เราทำความดีด้วยหัวใจ....ร่วมใจกันพัฒนา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น