ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

กองทัพภาคที่ 2 จัดการประชุมแก้ไขปัญหาโครงการระบบกำจัดขยะมูลฝอยของเทศบาลนครนครราชสีมาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

กองทัพภาคที่ 2 จัดการประชุมแก้ไขปัญหาโครงการระบบกำจัดขยะมูลฝอยของเทศบาลนครนครราชสีมาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 ณ ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา พลตรี ณัฎฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ร่วมกับ นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมโครงการระบบกำจัดขยะมูลฝอยของเทศบาลนครนครราชสีมา โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมที่ กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เพื่อหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาการดำเนินชีวิตและสภาพความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนชาว จ.นครราชสีมา สรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้.-

         1. ความเป็นมา : เทศบาลนครนครราชสีมา และกองทัพบก โดย กองทัพภาคที่ 2 ได้จัดทำบันทึกข้อตกลง การใช้พื้นที่ในครอบครองของกองทัพบก เพื่อจัดทำโครงการระบบกำจัดขยะมูลฝอยของเทศบาลนครนครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 โดยแบ่งพื้นที่ ออกเป็น 4 ส่วน

            - พื้นที่ A1 พื้นที่กองขยะและฝังกลบเดิม ขนาดพื้นที่ 41-0-58 ไร่ ระยะเวลาใช้งาน ปี พ.ศ. 2550 – 2567 และ  เทศบาลฯ จะดำเนินการดูแลพื้นที่ต่อไปจนถึงปี 2589

            - พื้นที่ A2 พื้นที่ตั้งโรงงานปุ๋ยอินทรีย์และพลังงานเดิม ขนาดพื้นที่ 31-3-42 ไร่ ระยะเวลาใช้งาน ปี พ.ศ.2550 – 2589

             - พื้นที่ B พื้นที่ตั้งโรงงานเตาเผาขยะเพื่อผลิตพลังงาน ขนาดพื้นที่ 121-0-58 ไร่ ระยะเวลาใช้งาน ปี พ.ศ.2561 – 2589

             - พื้นที่ C พื้นที่บ่อฝังกลบขยะมูลฝอยชั่วคราว ขนาดพื้นที่ 50-0-0 ไร่ ระยะเวลาใช้งาน ปี พ.ศ.2561 – 2567 และเทศบาลฯ จะดำเนินการดูแลพื้นที่ต่อไปจนถึงปี 2589

         2. สาเหตุที่ทางกองทัพภาคที่ 2 ให้เทศบาลนครนครราชสีมา งดเว้นการนำขยะมาทิ้ง (ในพื้นที่ C)

    เนื่องจากการดำเนินโครงการฯ ของเทศบาลนครนครราชสีมา ไม่เป็นไปตามบันทึกข้อตกลง และในพื้นที่ C มีปริมาณขยะสะสม 334,863 ตัน ซึ่งเพิ่มมากขึ้น  ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งในด้านสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ จากกลิ่นอันไม่พึงประสงค์และน้ำเสียที่เกิดขึ้นจากขยะ และเทศบาลฯ ยังไม่มีแผนการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่ชัดเจน (ซึ่งไม่เป็นไปตามการประชุมหารือในวันที่ 17 ม.ค. 68) อีกทั้ง กองทัพภาคที่ 2 ได้มีหนังสือขอให้เทศบาลฯ เร่งรัดในการดำเนินการแก้ไขปัญหาแล้วนั้น กองทัพภาคที่ 2 จึงขอให้เทศบาลดำเนินการดังนี้

   1) พื้นที่ A1.1 และ A1.2 ให้เทศบาลฯ รีบดำเนินการให้เรียบร้อย

   2) พื้นที่ A2 ยังสามารถดำเนินโครงการฯ ได้เหมือนเดิมตามบันทึกข้อตกลงฯ รถขนขยะอินทรีย์ สามารถนำขยะอินทรีย์มาส่งให้แก่โรงงานได้ แต่ขยะที่นอกเหนือจากขยะอินทรีย์ ให้เทศบาลฯ วางแผนขนย้ายขยะไปพื้นที่อื่น ที่ไม่ใช่พื้นที่ C 

   3) พื้นที่ B หลังจากศาลปกครองสูงสุด ได้มีคำสั่งจนถึงที่สุดแล้ว เทศบาลฯ และกองทัพภาคที่ 2 จะมาหารือร่วมกันอีกครั้ง

   4) พื้นที่ C 

       - ให้งดเว้นการนำขยะมูลฝอยมาทิ้งในพื้นที่ C ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. 68 เป็นต้นไป

       - ให้เทศบาลฯ ดำเนินการในการขนย้ายขยะออกจากพื้นที่ C เพื่อให้เป็นไปตามบันทึกข้อตกลงฯ และสรุปประชุมในวันที่ 17 ม.ค.68

       - ให้เทศบาลฯ ประชาสัมพันธ์หน่วยงาน และประชาชนให้งดเว้นการเข้ามาทิ้งขยะในพื้นที่ C พร้อมทั้งติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ฯ

         3. สรุปการประชุมหารือในการแก้ไขปัญหาในปัจจุบัน

   จังหวัดนครราชสีมา และกองทัพภาคที่ 2 ได้ร่วมกันหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยคำนึงถึงการดำเนินชีวิตและสภาพความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนชาว จ.นครราชสีมา  ซึ่งสรุปแนวทางการแก้ไขปัญหาได้ดังนี้.-

   1) พื้นที่ C 

       - ให้เทศบาลฯ งดเว้นการนำขยะมาทิ้ง ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. 68 เวลา 1800 เป็นต้นไป

       - ให้เทศบาลฯ ดำเนินการขนย้ายขยะออกจากพื้นที่ C เพื่อให้เป็นไปตามบันทึกข้อตกลง 

   2) พื้นที่ B อนุโลมให้เทศบาลฯ นำขยะมาทิ้งพักไว้ในพื้นที่ B ได้ ไม่เกินวันละ 350 ตัน 

        - เริ่มนำขยะมาทิ้งได้ตั้งแต่วันที่ 12 – 21 เม.ย. 68 (อนุโลมให้ยังไม่ต้องขนขยะออก เนื่องจากติดเรื่องการห้ามรถบรรทุกวิ่ง ช่วงสงกรานต์)

        - ตั้งแต่วันที่ 22–30 เม.ย.68 สามารถนำขยะมาทิ้งได้และต้องดำเนินการขนขยะออกจากพื้นที่ B (รวมถึงขยะที่นำมาทิ้งในห้วงวันที่ 12-21 เม.ย.68) ให้หมดภายในวันที่ 30 เม.ย. 68

       - ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 68 สามารถนำขยะมาพักในพื้นที่ B ได้ แต่ต้องดำเนินการขนย้ายขยะออกให้หมดเป็นประจำทุกวัน









ภาพ/ข่าว :กองทัพภาคที่ 2  กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ร่วมด้วยช่วยกัน งานผ้าป่าเพื่อพัฒนาการศึกษาโรงเรียนบ้านหนองอีเหลอ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต ๔

วันที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๘ เวลา ๑๐.๐๐ น.งานผ้าป่าเพื่อพัฒนาการศึกษาโรงเรียนบ้านหนองอีเหลอ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต ๔ วันเสาร์ที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๘ เวลา ๑๐.๐๐ น.  "พระครู ดร.ภัทร จิตตามภรณ์"  เจ้าคณะตำบลคลองม่วง เขต ๒ และเจ้าอาวาสวัดซับม่วง  "พระครูพิพิธธรรมธราดา"  เจ้าอาวาสวัดทองอ่อนสามัคคี (ประธานฝ่ายสงฆ์)  "ว่าที่ร้อยตรี อมร โฉมงาม"  รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูง ภาค ๓ (ประธานฝ่ายฆราวาส)  นายเบิ้ม พลแก้ว  ประธานกรรมการสถานศึกษา/ คณะกรรมการสถานศึกษา/ ท่านผู้บริหาร/ ผู้นำชุมชน/ เจ่าภาพโรงทาน/ ผู้ปกครองนักเรียน/ตลอดจนผู้มีเกียรติทุกท่าน เมื่อได้เวลาอันเป็นมงคล  ว่าที่ร้อยตรี อมร โฉมงาน  รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูง ภาค ๓ ได้ให้เกียรติจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พร้อมนาย ประดิษฐ์ วงศ์ษา คณะกรรมการสถานศึกษา และรองประธานฝ่ายฆราวาส  นายแพทย์ทะเนตร แสนพงษ์  ปศุสัตว์อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และรองประธานฝ่ายฆราวาสตัวแทน  ท่าน สส สิรสิทธิ์ เลิดด้วยลาภ และ คุณภัทร เลิดด้วยลาภ สอบจ.นครราชสีมา  เ...

คนไทยไม่ทิ้งกัน ส่งพลังและสิ่งของมอบให้ทหาร กองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๒๕

พระอาจารย์ สมชาย(เอก) วัดบัวแก้วศัทธาธรรม กรุงเทพ ฯ พร้อมด้วย บรรดาญาติ ผู้มีจิตศรัทธา มีนายภูวเดช ดวงประเสริฐ และ น.ส.เอมมณา วงศ์รัตติกูล ได้นำสิ่งของไปมอบให้กองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๒๕ เพื่อนำสิ่งของไปมอบให้ ทหารที่อยู่ชายแดนที่จังหวัด  ศรีษะเกตุ และจังหวัดสุรินทร์ ค่ายวีรวัฒน์โยธิน มงคลชัย ใจธรรมมะ  รายงานข่าว   

แก๊งมิจฉาชีพอาละวาด! ออกเดินเรี่ยไรเงินในจ.สุโขทัย

แก๊งมิจฉาชีพอาละวาด! ออกเดินเรี่ยไรเงินในจ.สุโขทัย  เจ้าหน้าที่ปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่ามีการทำการเรียไรในพื้นที่อำเภอสวรรคโลก และได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่อำเภอศรีสำโรงโดยรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมก หมายเลขทะเบียน บพ 2801 กาญจนบุรี แบบบรรทุกตอนเดียวมีหลังคา สีบรอนเงิน โดยได้ทำการเรี่ยไรในพื้นที่ตลาดศิริสุข และได้เดินทางไปเรี่ยไรต่อในพื้นที่ม.2 ต.คลองตาล ต่อมาวันที่ 22มี.ค.68 เวลา 11.55น. นายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ ปลัดจังหวัดสุโขทัย ป้องกันจังหวัดสุโขทัย ปลัดอำเภอศรีสำโรง พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ลงพื้นที่ตรวจสอบตามการร้องเรียนของประชาชนจนได้พบตัวนายสายชล ทับทิม อายุ 37ปี ชาวจ.สุพรรณบุรี และนายวัลลพ ทัศนากร อายุ 46ปี ชาวจ.ราชบุรี จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจค้น พบเงินสดจำนวน 2,179 บาท ซองบอกบุญสำนักสงฆ์พุทธนิมิตรบึงอ้อ บ้านปีกคง ม.6 ต.หนองนาแซง อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิและตราประทับสำนักสงฆ์ฯ พร้อมตลับหมึกจำนวน 1 ชุด  จึงได้ขอตรวจสอบใบอนุญาตเรี่ยไร ซึ่งต่อมามีนายคำเบ้า แต้มชัยภูมิ อายุ70ปี ชาวจ.กาญจนบุรีได้เข้ามาแสดงตนเป็นหั...